Newletter 2/2563

03/08/2563

699


TQM Newsletter 2/63


ภาพรวมธุรกิจ

จากสถิติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ) เบี้ยประกันวินาศภัยรวมสำหรับไตรมาสแรกของปี 2563 ช่วงเดือน มกราคม – มีนาคม 2563 จำนวน 63,592 ล้านบาท หรือเติบโตเท่ากับ ร้อยละ 7.15 YoY แบ่งเป็น

เบี้ยประกันวินาศภัยประเภทรถ 36,705 ล้านบาท

เบี้ยประกันวินาศภัยประเภทเบ็ดเตล็ด 23,181 ล้านบาท

เบี้ยประกันวินาศภัยประเภทอัคคีภัย 2,363 ล้านบาท

เบี้ยประกันวินาศภัยประเภททะเลและขนส่ง 1,343 ล้านบาท


เบี้ยประกันชีวิตปีแรก ปีต่อไป และจ่ายครั้งเดียว สำหรับไตรมาสแรกของปี 2563 ช่วงเดือน มกราคม – มีนาคม 2563 จำนวน 149,320 ล้านบาทหรือเติบโตเท่ากับ ร้อยละ 0.99 YoY จากกรมธรรม์ปีแรกจำนวน 27,442 ล้านบาท กรมธรรม์ปีต่อจำนวน 108,034 ล้านบาทและจากสัญญาจ่ายครั้งเดียวจำนวน 13,844 ล้านบาท

การระบาดของไวรัสโควิด-19 (Covd-19) ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบันนั้น ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นจำนวนมากกับหลายภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดีธุรกิจประกันภัยยังคงเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นต่อวิถีชีวิตของประชาชนรวมถึงภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งบริษัทฯ ได้พัฒนา platform ต่าง ๆ เพื่อรองรับการขยายช่องทางการขายออนไลน์ อาทิ Facebook, Line รวมถึงเว็บไซต์ของบริษัท www.tqm.co.th ซึ่งช่องทางเหล่านี้ได้อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดีให้กับลูกค้าประกันภัยในยุค New Normal รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคและฤดูกาลของประเทศไทย ซึ่งจะเห็นได้ว่า TQM ได้ออกผลิตภัณฑ์ประกัน Covid-19 ร่วมกับบริษัทประกันเพื่อสนองความต้องการของลูกค้าเป็นรายแรกของประเทศไทย อีกทั้งยังได้ออกผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ตามออกมา เช่น ประกันไข้หวัดใหญ่ ประกันภัยโรคที่เกิดจากยุง ประกันบ้านจากภัยธรรมชาติ เป็นต้น

ภาพรวมบริษัทไตรมาสที่ 2/2563

รายการ

2563

2562

YoY

ล้านบาท

ร้อยละ

ล้านบาท

ร้อยละ

ล้านบาท

ร้อยละ

รายได้ค่าบริการ

728.8

97.5

664.2

97.0

64.6

9.7

รายได้อื่น

18.5

2.5

20.6

3.0

(2.1)

(10.2)

ต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการ

361.6

48.4

356.4

52.0

5.2

1.5

กำไรขั้นต้น

367.2

50.4

307.8

46.3

59.3

19.3

ค่าใช้จ่ายในการบริหาร

183.8

24.6

178.6

26.1

5.2

2.9

กำไรสุทธิ

162.9

21.8

122.5

17.9

40.4

33.0

กำไรต่อหุ้น (บาท)

0.54


0.41


0.13

31.7


ภาพรวมบริษัทรวม 2 ไตรมาส

รายการ

2563

2562

YoY

ล้านบาท

ร้อยละ

ล้านบาท

ร้อยละ

ล้านบาท

ร้อยละ

รายได้ค่าบริการ

1,542.8

98.2

1,321.5

97.4

221.3

16.7

รายได้อื่น

27.5

1.8

35.2

2.6

(7.7)

(21.9)

ต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการ

769.0

49.0

722.0

53.2

47.1

6.5

กำไรขั้นต้น

773.8

50.2

599.6

45.4

174.3

29.1

ค่าใช้จ่ายในการบริหาร

375.1

23.9

353.3

26.0

21.8

6.2

กำไรสุทธิ

342.3

21.8

229.0

16.9

113.3

49.5

กำไรต่อหุ้น (บาท)

1.14


0.76


0.37

48.1


  • รายได้ค่าบริการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เท่ากับ 728.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 664.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 64.6 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.7 YoY สาเหตุจากยอดขายและบริการที่เพิ่มมากขึ้น

  • ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เท่ากับ 361.6 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 48.4 ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 356.4 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 52.0 เพิ่มขึ้นจำนวน 5.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.5 YoY เพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น

  • จากเหตุผลข้างต้นทำให้กำไรขั้นต้นประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เท่ากับ 367.2 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 50.4 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 307.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.3 เพิ่มขึ้นจำนวน 59.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 19.3 YoY เพิ่มขึ้นจากการขยายการขายผ่านช่องทางออนไลน์รวมถึงช่องทางอื่น ๆ

  • ค่าใช้จ่ายในการบริหารประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เท่ากับ 183.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.6 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวของปีก่อนที่ 178.6 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 26.1 เพิ่มขึ้นจำนวน 5.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.9 YoY สาเหตุหลักจากการบันทึกบัญชีตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่ฉบับที่ 9 เรื่องเครื่องมือทางการเงิน และฉบับที่ 16 เรื่องสัญญาเช่า ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในปีปัจจุบัน

  • กลุ่มบริษัทฯมีกำไรสุทธิรวมจากผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เท่ากับ 162.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.8 เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 122.5 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.9 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 40.4 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.0 YoY จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายทุกช่องทาง การบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • กำไรต่อหุ้นรวม 2 ไตรมาสเท่ากับ 1.14 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากยอดรวม 2 ไตรมาสของปีก่อนเท่ากับ 0.37 บาทต่อหุ้น หรือเท่ากับ ร้อยละ 48.1 และในไตรมาสที่ 2 กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.54 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 0.41 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.13 บาทต่อหุ้น โดยที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติให้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด จำนวน 1.00 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 24 สิงหาคม 2563 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2563


ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์

โทร. 02 119 8888 ต่อ 5009



ข่าวล่าสุด